นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำชีไหลมาสมทบกับแม่น้ำมูลต่อเนื่อง ทำให้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำมูล ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อให้ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสามารถใช้งานได้ตามปกติ กระทรวงดีอีได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดส่งทีมงานเข้าดูแลระบบโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมอย่างเต็มที่ทันที โดยเฉพาะเครือข่ายสื่อสารหลักของเน็ตประชารัฐที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดย บมจ.ทีโอที ได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลเครือข่ายเน็ตประชารัฐ และแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนทันที โดยขณะนี้ ประชาชนใน 900 หมู่บ้าน สามารถใช้บริการเน็ตประชารัฐได้ตามปกติจำนวน 6,522 ราย ส่วนอีก 15 หมู่บ้าน เนื่องจากระบบไฟฟ้าอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ โดย ทีโอที ได้เตรียมพร้อมเข้าพื้นที่ทันทีหากระบบไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ รวมถึงได้เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ดร.มนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการโครงข่าย Network Operation Center (NOC) ซึ่งจะบริหารงานโครงข่ายเพื่อให้การใช้งานเน็ตประชารัฐมีประสิทธิภาพ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ ทีโอที ปฏิบัติงานภายในศูนย์เพื่อบริหารจัดการการใช้งานบริการอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการเข้าดำเนินการดูแลเครือข่ายเน็ตประชารัฐในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทีโอที ได้ส่งกองงานฉุกเฉินเร่งด่วน เข้าสำรวจเหตุขัดข้องจากสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมกับ ประสานกับการไฟฟ้า และเร่งซ่อมแซมปรับปรุง เสาและข่ายสายเคเบิลใยแก้วน้ำแสง (OFC) รวมถึงแก้ไขอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตของเน็ตประชารัฐ สามารถใช้งาน ได้ตามปกติ นอกจากนี้ ทีโอที ยังได้เตรียมพร้อมการให้บริการ แจ้งผลกระทบเป็นระยะ และจัดเตรียมอุปกรณ์ Spart part ให้พร้อมหากเกิดความเสียหายที่อุปกรณ์ เพื่อเจ้าหน้าที่จักได้สามารถเข้าพื้นที่แก้ไขได้ทันที
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวย้ำว่า โครงการเน็ตประชารัฐของรัฐบาล ซึ่งได้ขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกลถึง 24,700 หมู่บ้าน นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับประชาชน ซึ่งในช่วงที่มีสถานการณ์น้ำท่วมทำให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ ที่สำคัญสามารถใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารสำหรับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่รอบนอกได้อย่างรวดเร็วพร้อมกัน ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้เน้นย้ำมอบหมายให้ ทีโอที เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย และให้จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นแก้ไขอย่างรวดเร็วทันทีหากเกิดปัญหาระบบโทรคมนาคมได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่โดยทั้งการมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค และการออกมาตรการด้านโทรคมนาคมต่างๆ เพื่อเยียวยาและบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างทันท่วงทีและรวดเร็ว