เว็บไซต์โดนปิด มักเกิดจากการเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ตที่เป็นข้อมูลในทางลบ เพราะว่าเว็บไซต์ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างต่อสังคมบนโลกออนไลน์ การเผยแพร่หรือทำสื่อที่ทำให้เกิดผลเสียหรือเป็นภัยต่อสังคมย่อมเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย ดังนั้นผู้เสพข่าวสารและผู้เผยแพร่ข่าวสารหรือเนื้อหาต่าง ๆ บนเว็บไซต์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษากฎหมายคอมพิวเตอร์ให้จัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำผิดและเพื่อให้บุคคลทั่วไปห่างไกลจากเว็บไซต์ที่กระทำผิดกฎหมาย เรามาเรียนรู้กันว่าถ้าต้องการเผยแพร่เนื้อหาหรือเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์จะต้องระมัดระวังเรื่องอะไรกันบ้าง



โดยสาเหตุที่ทำให้เว็บไซต์โดนปิด ส่วนมากมาจากการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและบิดเบือนข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคนในสังคมเป็นวงกว้าง โดยสาเหตุที่ทำให้เว็บไซต์โดนปิดมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

มีเนื้อหาผิดกฎหมาย

สื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่ คือสื่อที่แสดงให้เห็นถึงการเปลือยกายที่เห็นทั้งอวัยวะทั้งผู้ชายและผู้หญิง ที่เป็นทั้งรูปแบบของคลิปวิดีโอ การ์ตูน ภาพ การเปิดห้องสนทนาลามกบนเว็บไซต์ หรือการเขียนบรรยายเล่าประสบการณ์ทางเพศ เพื่อกระตุ้นทำให้เกิดความใคร่ทางกามารมณ์ ซึ่งผู้ที่ปรากฏบนเว็บไซต์จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป

การขายบริการทางเพศ เป็นเนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงการขายบริการทางเพศทั้งชายและหญิง โดยมีการแนะนำ ชื่อ เบอร์โทร อีเมล เพื่อเป็นข้อมูลติดต่อส่วนตัว และยังเป็นการประกาศการขายบริการลงเว็บไซต์ต่อสาธารณชน

ดูหมิ่นสถาบัน หรือการพูดถึงสถาบันไปในทางที่ไม่ดี เช่น การใส่ร้าย กล่าวหา ให้สถาบันเสื่อมเสีย ในรูปแบบของคลิปหรือรูปภาพ หรือเขียนข่าวเพื่อชักจูงให้คนอื่นเห็นภาพด้านลบของสถาบัน

ยาเสพติด คือสิ่งที่เป็นภัยต่อสังคม ยิ่งลงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือสร้างช่องทางการขายยาเสพติดบนเว็บไซต์คือสิ่งที่ผิดกฎหมาย เช่น ขายยาเสพติด ขายอุปกรณ์การเสพ เผยแพร่วิธีการเสพ แต่ยกเว้นเนื้อหาให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดในตำราเรียน

การละเมิดเด็ก

สื่อที่แสดงถึงลามกอนาจารเด็ก เช่น การอัดคลิปวิดีโอต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการทารุณเด็ก หรือการแต่งชุดที่ทำให้ดูคล้าย ๆ เหมือนเป็นเด็ก แล้วโชว์อวัยวะที่ควรปกปิดของตัวเองลงเว็บไซต์

การค้าประเวณีเด็ก คือการนำเด็กมาหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอให้ขายบริการทางเพศกับบุคคลอื่นเพื่อให้เด็กได้ค่าตอบแทนหรือรางวัล ซึ่งการลงเนื้อหาเกี่ยวกับการค้าประเวณีเด็กนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และบุคคลทั่วไปควรหลีกเลี่ยง

การกลั่นแกล้งออนไลน์ การข่มขู่ ใส่ร้าย พูดจาหยาบคาย บนโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Line ด้วยการโพสต์ประจานให้เหยื่อเกิดความอับอาย หรือมีเนื้อหาเพื่อชักชวนผู้ชายและผู้หญิงมาเพื่อหลอกมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการตัดต่อหรือนำภาพการทำธุระในห้องน้ำของเหยื่อมาเผยแพร่บนเว็บไซต์

การละเมิดกฎหมายด้านอื่น ๆ บนโลกออนไลน์

การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล คือการเขียน หรือเผยแพร่ข้อความที่หมิ่นประมาทให้บุคคลอื่นเกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง รวมถึงการแอบเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลลงโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์

การละเมิดลิขสิทธิ์ คือการดัดแปลง เลียนแบบ การเผยแพร่ซ้ำจากต้นฉบับ การนำผลงานของผู้อื่นมาอ้างสิทธิเป็นผลงานของตนเอง การนำภาพยนตร์หรือเพลงมาลงบนเว็บไซต์ของตนเอง หรือการขายสินค้าเลียนแบบนั้นถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น

การฉ้อโกงทางการเงิน คือการให้ข้อมูลเพื่อหลอกเอาเงินจากผู้อื่น เช่น การหลอกให้ทำธุรกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการเงิน การประกาศใช้กลโกงให้ผู้ที่เป็นเหยื่อโอนเงินมาให้ เป็นต้น หากพบการกระทำนี้บนเว็บไซต์ถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมทางการเงิน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน เช่น คาสิโนออนไลน์ แทงบอลออนไลน์ หรือเกี่ยวกับการเชิญชวนให้นำเงินมาร่วมเล่นพนันในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น

การขายสินค้าต้องห้าม โดยเฉพาะการขายแบบ e-Commerce ที่มีการโฆษณาบนเว็บไซต์ เช่น ยาที่ไม่ผ่านการรับรอง อาวุธผิดกฎหมาย หรือสินค้าที่เป็นอันตรายต่อผู้ซื้อ หากเจอสินค้าประเภทนี้บนเว็บไซต์ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี

ไม่ว่าเราจะเป็นคนเผยแพร่หรือคนที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่อยู่บนโลกออนไลน์ เราควรศึกษากฎหมายคอมพิวเตอร์ไว้ให้ดี เพื่อป้องกันการกระทำผิดโดยไม่รู้ตัว และที่สำคัญผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนต้อง ระมัดระวังการถูกฟิชชิ่งหรือถูกโจรกรรมข้อมูล จากผู้ประสงค์ หรือก่อนที่จะลงเนื้อหาต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ ต้องรู้จักตรวจเช็กเนื้อหาก่อนเผยแพร่ ทุกครั้งก่อนที่เนื้อหาจะออกไปสู่พื้นที่สาธารณะ