Blockdit คือ Social Media ที่มีความเฉพาะเจาะจงแบบเน้นโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับสาระความรู้ ข่าวสาร เหมาะสำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือและติดตามข่าวสารอยู่เป็นประจำ ทุกวันนี้เราไม่ต้องออกไปซื้อแมกกาซีนเป็นเล่มมาอ่านหรือต้องสมัครเป็นสมาชิกรายเดือนของแมกกาซีนอีกต่อไปแล้ว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Blockdit มาติดตั้งไว้ที่สมาร์ทโฟน ก็สามารถอ่านสาระน่ารู้ได้แบบอัปเดตได้ทุกวัน Blockdit ยังเป็นพื้นที่บนโลกออนไลน์ที่เอาใจนักเขียนที่อยากปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย และเป็นพื้นที่พบปะกันระหว่างนักเขียนและนักอ่าน เรามาดูกันว่า Blockdit เป็นแมกกาซีนออนไลน์ที่เข้ากับวิถีการเรียนรู้ของคนยุคใหม่ได้อย่างไร
Community ของคนรักการเรียนรู้
ใน Blockdit เราสามารถเลื่อนดูฟีดโดยที่ไม่มีเรื่องของข่าวซุบซิบดาราหรือโฆษณาขายของมารบกวนในเวลาที่เรากำลังอ่านหรือดูคอนเทนต์ที่สนใจ เราสามารถอยู่กับ Blockdit ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่มีเบื่อ เพราะมีเพจหลายหมวดหมู่ให้เราได้เลือกเข้าไปอ่าน เหมาะสำหรับคนที่ชอบอัปเดตข่าวสารทุกวันเป็นประจำ และ Blockdit ยังสามารถนำเสนอคอนเทนต์ได้ 3 ประเภท ได้แก่ บทความ Video และ Podcast ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่ทำให้เราเรียนรู้ได้ยืดหยุ่นมากขึ้นซึ่งเรียนรู้ได้ทั้งการฟังและการอ่าน
ใคร ๆ ก็สามารถเป็น Editor ได้ใน Blockdit
UGC (User Generated Content) เป็น Concept ที่ Blockdit ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถแบ่งปันเรื่องราวได้ หมายความว่าใคร ๆ ก็สามารถเป็นนักเขียนได้ ใคร ๆ ก็สามารถปล่อยของได้ ทุกคนสามารถนำประสบการณ์ทำงาน เทคนิคการทำงาน หรือทักษะส่วนตัวมาแชร์บนเพจของตัวเอง หมายความว่าเราเป็นบรรณาธิการให้กับตัวเองเหมือนได้เป็นเจ้าของแมกกาซีนในสไตล์ของตัวเอง ถ้าเราสร้างเนื้อหาโดนใจ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม จนมีคนมาติดตามตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป เราสามารถมีรายได้จาก Blockdit เมื่อมีคนมากดให้ดาวหรือให้เพชรที่โพสต์นั้น ๆ
ทำ Advertorial Content ตอบโจทย์คนทำธุรกิจ
Blockdit ไม่สามารถขายของหรือลงโฆษณาได้ ถ้าเนื้อหาของเราทั้งหมดเกี่ยวข้องกับโฆษณาหรือขายสินค้าเกิน 20% โพสต์นั้น ๆ ของเราจะไม่โชว์ไปที่หน้าฟีด แต่จะถูกจัดให้ไปอยู่ในส่วนของ Add แทน หมายความว่าคนที่สไลด์ดูสาระความรู้ในหน้าฟีดจะไม่เห็นโพสต์ของเรานั่นเอง หากเรามีธุรกิจและอยากดึงกลุ่มลูกค้าจาก Blockdit มาติดตามธุรกิจของเรา แนะนำให้ทำคอนเทนต์เชิง Advertorial Content ซึ่งเป็นวิธีการที่ให้สาระความรู้แบบไม่ได้ขายของโดยตรง แต่จะเป็นการทำคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับสินค้าหรือบริการ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นที่ปรึกษาการเงินเราต้องสร้างเพจ Blockdit ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการเงินการลงทุน หรือถ้าเราเป็นวิทยากร อาจารย์ ที่มีหลักสูตรคอร์สสัมมนา เราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรที่เราสอน หรือธุรกิจความงามถ้าจะขายบริการตรง ๆ เลยก็จะผิดกฎของ Blockdit ที่ห้ามทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการขายต่าง ๆ แนะนำให้ทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาที่เกี่ยวข้องกับบริการความงามแทน สุดท้ายให้ใส่ลิงก์ URL ไว้ท้ายบทความเพื่อให้ผู้ที่สนใจคลิกไปที่ Landing page ของสินค้าและบริการของเรา
กลุ่ม Influencer สายความรู้ได้เปรียบสุด ๆ
Influencer มีพื้นฐานมาจากคนที่ชอบแชร์สาระน่ารู้อยู่แล้วเป็นทุนเดิม การทำคอนเทนต์ใน Blockdit ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าทาง Influencer เพราะโดยส่วนมากคนที่ใช้ Blockdit จะเป็นกลุ่มคนที่รักการเรียนรู้และคอยติดตามองค์ความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ส่งผลให้คนที่นำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ใน Blockdit มีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนที่ติดตามและชื่นชอบคอนเทนต์ของเขา
ในโลกยุคปัจจุบันเทคโนโลยีคือปัจจัยหลักที่ทำให้มนุษย์มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาได้ง่ายขึ้นและเป็นเจ้าของสื่อได้ง่าย ๆ Blockdit เป็นเหมือนพื้นที่ให้นักเขียนและนักอ่านมาเจอกัน อีกทั้งยังเป็นเหมือนแมกกาซีนออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้เราได้เผยแพร่ความรู้ที่เรามีอยู่ และยังเป็นแอปพลิเคชันที่มีข่าวสารอัปเดตใหม่ทุกวันจากนักเขียนมากหน้าหลายตา นอกจาก Blockdit แล้ว ยังมี
เทคโนโลยีการศึกษาที่น่าจับตามอง อีกหลายช่องทางให้เราได้เข้าไปหาความรู้ สำหรับคน
อยากเปิดคอร์สเรียนออนไลน์ หรือมีคอร์สเรียนออนไลน์เป็นของตัวเองแล้ว แต่ไม่มีช่องทางทำคอนเทนต์โปรโมทตัวเอง Blockdit คือคำตอบที่ใช่สำหรับเราที่จะได้เจอกับกลุ่มนักเขียนและนักอ่านคุณภาพอยู่ในนั้น