สภาวะโควิด-19 สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนทั่วโลก และคนส่วนใหญ่กังวลว่าจะติดโรคนี้ จึงหาวิธีป้องกันตัวเองและคนใกล้ตัวหลากหลายรูปแบบ จนกลายเป็นสร้างความเครียดในการใช้ชีวิตไปแบบไม่รู้ตัว

ในบทความนี้มาดูกันว่าในภาวะโควิด-19 คนที่ทำงานอยู่จะสามารถจัดการความเครียดและรับมือกับปัญหานี้อย่างไร แบบไม่ให้ป่วยทั้งกายและป่วยทั้งใจ

3 วิธีรับมือกับความเครียดในช่วงโควิด-19

เมื่อต้องเจอกับภาวะวิกฤตหรือสิ่งที่ยังควบคุมไม่ได้ คนเราจะมีความกังวลเกิดขึ้นตามกลไกลธรรมชาติ ซึ่งถ้าเกิดความกังวลหรือความเครียดขึ้นแล้ว สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือการหาความรู้และข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อใช้ในการวางแผนใช้ชีวิตและเตรียมรับมือสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยสามารถทำได้ดังนี้


1. เตรียมตัวรับมือ แต่ไม่ตื่นตระหนก

เปลี่ยนความหวาดระแวงเป็นการเตรียมตัวรับมืออย่างเข้มแข็ง โดยสิ่งแรกคือการใช้ชีวิตให้เป็นปกติ ไม่ว่าจะกินอาหาร การนอน การเชื่อมต่อกับผู้คน การทำงานอดิเรก แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มเข้ามาคือความปลอดภัย เช่น กินร้อนช้อนกลาง หมั่นล้างมือล้างเท้า สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน หรือแยกตัวออกจากคนในบ้านเมื่อมีอาการไม่สบาย
ในระหว่างการใช้ชีวิตในช่วงวิกฤตนี้สิ่งที่จะช่วยลดความเครียดกับคุณนั่นคือ การปรับทัศนคติ และหมั่นสำรวจความคิดและความรู้สึกของคุณทุกวัน ว่ากำลังมีสภาวะเครียดเกิดขึ้นหรือไม่


2. เข้าใจความจริงช่วยลดความเครียดได้

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน โดยเลือกดูจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือเท่านั้น และติดตามคำแนะนำจากหน่วยงานรัฐหรือกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีการปรับเปลี่ยนอะไรเกิดขึ้นบ้าง และมีอะไรที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดบ้าง

สำหรับการการติดตามข่าวสาร ควรอยู่ในปริมาณที่พอดีในแต่ละวัน เพราะการเสพข่าวสารที่มากเกินไป สามารถสร้างความเครียดและความกังวลให้กับคุณได้ ควรอัปเดตข่าวสารวันละครั้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ก็เพียงพอแล้ว


3. บริหารสุขภาพจิต

ในวันไหนที่คุณรู้สึกว่าคุณกำลังเครียดเกินไป จนทำให้ร่างกายแสดงความผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ ปวดหัว ใจสั่น ลองเริ่มจัดการความคิดของคุณเองใหม่ ปล่อยวางจากเรื่องที่กำลังกังวลอยู่ หรือพูดคุยกับคนใกล้ตัวเพื่อหาทางออกจะดีที่สุด

แนะนำแอปพลิเคชันช่วยลดความเครียด

• Calm : ช่วยให้คุณผ่อนคลายด้วยภาพและเสียง เพียงหลับตาแล้วเปิดเล่นเสียงจากในแอปพลิเคชันก็เหมือนคุณได้นั่งพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝนตก เสียงคลื่นซัดหาดทราย เสียงธรรมชาติในป่า

• Headspace : ช่วยให้พื้นที่ในหัวของคุณปลอดโปร่ง ขจัดปัญหาและคลายความวิตกกังวลต่างๆ ในแอปจะมีฟังก์ชั่นให้คุณได้เลือกออกกำลังกายความคิดหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น ฝึกสมาธิแบบพื้นฐาน วิธีลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับสนิท ไปจนถึงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การคลายเครียดสำหรับพนักงานออฟฟิศ

 

สำหรับคนทำงาน นอกจากจะเครียดเรื่องการทำงานแล้ว ก็ยังต้องเครียดกับการป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย หลายคนได้ทำงานอยู่ที่บ้านก็มีความเครียด จากการไม่ได้ออกไปไหนร่วมด้วย ส่วนคนที่ยังต้องออกไปทำงานตามปกติ ก็มีความเครียดจากการระวังตัวจากเชื้อโรคมากขึ้น


สำหรับคนที่ยังต้องเดินทางไปออฟฟิศอยู่

คนที่ยังต้องเดินทางไปทำงานตามปกติ หลายคนก็จะมีทั้งความกังวลเรื่องเชื้อโควิด-19 บวกกับความเครียดจากการทำงานสะสมไปด้วย ซึ่งเมื่อออกจากบ้านก็ควรป้องกันตัวเองให้ดีและทำอย่างถูกต้อง



ความปลอดภัยต้องมาก่อน

 

• สวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา และไม่ควรเอามือสัมผัสกับหน้ากากขณะที่สวมอยู่ สำหรับหน้ากากผ้าควรนำไปซักทันทีเมื่อกลับถึงบ้านแล้ว
• ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำสบู่ทุกครั้งหลังจากไปสัมผัสกับของใช้ส่วนรวม เช่น ราวหรือเสาบนรถโดยสาร ปุ่มกดลิฟต์
• ทำตามคำแนะนำของสถานที่ต่างๆ โดยอาคารหรือสถานที่ต่างๆ จะมีคำแนะนำเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรูปแบบที่เหมาะสมกับสถานที่นั้น เช่น ยืนตามสติ้กเกอร์บอกทิศทางในลิฟต์ 

สำหรับคนที่ได้ Work From Home เต็มเวลา

ถึงแม้ว่าการทำงานอยู่ที่บ้านจะมีข้อดีที่ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่ก็สามารถเกิดความเครียดอื่นๆ ตามมาได้ เช่น ความเครียดจากการทำงานจนเกินเวลา เพราะหลายคนพอมีเวลาอยู่บ้านก็เลือกทำแต่งาน จนบางครั้งทำให้ความสมดุลของการใช้ชีวิตที่บ้านลดลง จนสุดท้ายแล้วเกิดเป็นความเครียดสะสม



จำกัดเวลาทำงานให้บาลานซ์

การทำงานที่บ้านมีข้อดีที่คุณสามารถจัดการเวลาการทำงานและการใช้ชีวิตได้เอง โดยคุณสามารถใช้ตัวช่วยในการแบ่งเวลาที่บ้านได้ เช่น

 

• Tomato Timer : จับเวลาพักโดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Pomododo โดยให้คุณเลือกงานที่คิดว่าต้องทำให้เสร็จ จากนั้นแอปพลิเคชันจะเซ็ทเวลาทำงานเป็นเวลา 25 นาที และพักเบรค 5 นาที สลับไปเรื่อยๆ จนกว่างานที่คุณโฟกัสจะเสร็จ
• Eye Care 20 20 20 : ช่วยถนอมสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยแอปพลิเคชันจะส่งสัญญาณเตือนให้คุณได้พักสายตาทุก 20 นาที โดยให้คุณหันไปมองสิ่งของหรือวัตถุที่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อย 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที แล้วกลับมาทำงานต่อ 

 

แบ่งเวลาว่างมาพักผ่อน

การพักผ่อนเป็นการผ่อนคลายความเครียดได้ดีที่สุด แบ่งเวลาว่างจากการทำงานของคุณ มาลองทำกิจกรรมเหล่านี้ดู

• ออกไปเดินเล่นบ้าง

อย่ากังวลเกินไปจนคุณไม่กล้าออกจากบ้าน ยิ่งคุณไม่ได้ออกไปไหนเพราะคิดว่าข้างนอกอันตรายเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความเครียดให้กับคุณได้ ให้คุณลองออกไปเดินเล่นใกล้ๆ บ้านดูบ้าง อาจจะเดินไปร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน หรือเดินไปซื้ออาหารที่ร้านกลับมากินที่บ้าน ก็ช่วยให้คุณไม่อุดอู้จนเกินไป แต่อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และล้างมือ ล้างเท้าทุกครั้งที่กลับมาถึงบ้าน

• ร้านค้าออนไลน์ช่วยได้เสมอ

แน่นอนว่ากิจกรรมการซื้อขอและจับจ่ายของหลายคนได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยผลมาจากการ Lock Down ทำให้ร้านค้าต่างๆ มารวมกันอยู่บนออนไลน์ การเข้าไปกดซื้อของตกแต่งบ้านอย่าง จานชาม ต้นไม้ โปสเตอร์ โคมไฟ ก็ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียดได้เช่นเดียวกัน

• ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้เกิดประโยชน์

นอกจากโซเชียลมีเดียแล้ว ยังมีอีกหลายแพลตฟอร์มบนออนไลน์ที่คุณสามารถเข้าถึงได้ฟรี เช่น Podcast, Online Course นอกจากจะช่วยให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว คุณยังได้รับความรู้หรือทักษะอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย

ลดความเครียดด้วยความเข้าใจเรื่องโควิด-19

เราเห็นกันแล้วว่าความเครียดที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 นี้ไม่ได้มาจากความกลัวการติดเชื้ออย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาทำให้เครียดเพิ่มขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เศรษฐกิจ เรื่องงาน หรือแม้แต่การอยู่ที่บ้านเป็นเวลานานก็สามารถสร้างความเครียดได้

ดังนั้นการเปิดใจและทำความเข้าใจสภาวะที่เป็นอยู่จึงเป็นสิ่งจำเป็นกับทุกคน หาวิธีการรับมือที่เหมาะสมกับคุณ รวมถึงเสพข่าวสารอย่างมีสติเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์จนเกินไป จะช่วยให้ทุกคนสามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างปลอดภัย