ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ตอนนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจและการเงินเป็นวงกว้างเลยทีเดียว ธุรกิจบางอย่างต้องหยุดชั่วคราวไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือธุรกิจเล็กๆ ต่างพากันปิดประตูหนีสภาวะการระบาดในครั้งนี้เพื่อความปลอดภัย

ท่ามกลางความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทำให้คนจำนวนมากทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้างต่างก็ขาดรายได้จากการประกอบอาชีพเดิม มาดูกันว่าในช่วงวิกฤตนี้เราจะมีเทคนิคบริหารเงินอย่างไรดี และจะหาโอกาสสร้างรายได้จากช่องทางไหนได้บ้าง

วางแผนการใช้จ่ายเงินใหม่

ใช้เวลาว่างจากการกักตัวอยู่ที่บ้านสำหรับการบริหารการเงินของคุณใหม่ เพราะในช่วงสภาวะนี้หลายคนอาจจะมีรายได้ต่อเดือนที่ลดลง ทำให้แผนการใช้จ่ายที่คุณเคยทำอยู่นั้นเปลี่ยนไป โดยวิธีการวางแผนดังนี้


เช็กสภาพคล่องทางการเงินของคุณ


สิ่งแรกที่ควรทำก่อนเริ่มวางแผนการเงิน ควรเริ่มจากการเช็กสภาพคล่องทางการเงินของคุณก่อน เปิดเช็คบัญชีเงินสด บัญชีเงินออมทรัพย์ ทรัพย์สินที่มีมูลค่าทั้งหมด

รวมถึงบัญชีหนี้สิน การผ่อนชำระต่างๆ

เพื่อดูความพร้อมว่าคุณจะมีเงินใช้ในกรณีที่ไม่มีรายได้เป็นเวลากี่เดือน ถ้าพบว่ามีระยะเวลาน้อยก็ต้องมาวางแผนว่าจะหารายได้เพิ่มเติมได้จากช่องทางไหนบ้าง

พูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ การให้ที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาช่วยให้คำแนะนำก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณจะได้รับการช่วยเหลือทั้งการบริหารการเงิน การลงทุน รวมถึงการตั้งเป้าหมายทางการเงินใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ใช้ช่องทางช่วยเหลือลูกหนี้ให้เกิดประโยชน์

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางรัฐบาลได้มีมาตรการเยียวยาและดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่น

• เงินช่วยเหลือแรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว และอาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในประกันสังคม
• สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อสภาพคล่องชั่วคราวแก่ประชาชน
• เลื่อนการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
• เลื่อนการผ่อนชำระสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อทะเบียนรถ (สำหรับสถาบันการเงินบางแห่ง)
• สินธุรกิจ SMEs, ไมโครไฟแนนซ์, นาโนไฟแนนซ์ พักชำระเงินต้น 3 เดือน (สำหรับสถาบันการเงินบางแห่ง)

 

ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายให้มากขึ้น

ในสถานการณ์ที่ยังคาดเดาไม่ได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ การรัดเข็มขัดทางการเงินเอาไว้ก่อนจะช่วยให้คุณมีเงินเหลือใช้ในกรณีฉุกเฉินนั้นสำคัญมาก จึงควรเก็บเงินเอาไว้ซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ก่อนและลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยลง ซึ่งการจำกัดการใช้จ่ายสามารถทำได้ดังนี้

จัดการหนี้เก่า

ตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน โดยแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนแบบประจำอยู่ ซึ่งธนาคารหรือเจ้าของสินเชื่อบางแห่งอาจมีมาตรการช่วยเหลือในการชำระได้ เช่น

• ค่าผ่อนรถ
• ค่าผ่อนบ้าน / คอนโด
• ค่างวดจากสินเชื่อต่างๆ

เอาค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน

ค่าใช้จ่ายอีกแบบหนึ่งคือค่าใช้จ่ายทั่วไปที่คุณสามารถบริหารการเงินรูปแบบนี้ได้ เช่น

• ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ / ค่าไฟ / ค่าอินเทอร์เน็ต)
• ค่าอาหาร
• ค่าสมาชิกรายเดือน (แอพพลิเคชั่นเพลง / เว็บไซต์ดูหนัง)
• ค่าช้อปปิ้ง

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เองที่คุณสามารถควบคุมได้ โดยให้พิจารณาดูว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนควรยกเลิกไปก่อน

หยุดแผนลงทุนทั้งหมดไว้ก่อน

หากเช็คสภาพคล่องทางการเงินของคุณแล้วพบว่าช่วงนี้มีอัตราเสี่ยงหลายอย่างที่อาจจะทำให้การลงทุน ทำกำไรกลับมาไม่ได้ให้คุณหยุดแผนการนั้นไปก่อน เพราะการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในระยะนี้ค่อยข้างมีความเสี่ยงหลายอย่าง

แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าธุรกิจของคุณในช่วงนี้กำลังเป็นขาขึ้น เพราะคุณขายของที่จำเป็นต่อการใช้งานของคน เช่น เจลล้างมือ หน้ากากอนามัยแบบผ้า ของอำนวยความสะดวกต่างๆ การลงทุนนั้นก็อาจจะคุ้มค่า

หาโอกาสสร้างรายได้จากช่องทางออนไลน์

ก่อนหน้านี้ช่องทางออนไลน์มีส่วนทำให้ธุรกิจหลายประเภทต้องปรับตัวครั้งใหญ่มาแล้ว ซึ่งครั้งนี้เองหลายธุรกิจก็อาจจำเป็นต้องพึ่งพาช่องทางออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางเดียวที่คุณจะสามารถขายสินค้าหรือสร้างรายได้จากช่องทางนี้ได้

ผันตัวเข้าสู่ตลาดออนไลน์

สำหรับใครที่มีธุรกิจอยู่แล้วหรือคนที่กำลังหาช่องทางการสร้างรายได้ การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์, Facebook หรือแอพลิเคชั่นที่เป็นร้านค้า เป็นช่องทางที่มีความคึกคักเป็นพิเศษ เพราะห้างร้านส่วนใหญ่หยุดชั่วคราว ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาซื้อของบนออนไลน์มากขึ้น ซึ่งถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดีมีตัวอย่างดังนี้

• ของมือสอง : ลองมองหาของที่มีมูลค่าที่คุณคิดว่าจะไม่ได้ใช้งานแล้วมาวางขายบนออนไลน์ เช่น กล้องถ่ายรูป นาฬิกา เสื้อผ้า เครื่องประดับ
• สินค้าจากชุมชน : ในหลายชุมชนมีการผลิตสินค้าตามวัตถุดิบที่หาได้ในชุมชน เมื่อการท่องเที่ยวกำลังหยุดชะงักไป แต่สินค้าของชุมชนยังสามารถส่งขายได้
• สินค้าตามกระแส : เป็นของที่คนส่วนใหญ่กำลังต้องการนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย หมวกกันเชื้อไวรัส
• อาหารและเครื่องดื่มแบบ Delivery : ใครที่มีธุรกิจร้านอาหารลองเข้าสู่บริการ Delivery ดู จะช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงที่คนไม่กินข้าวนอกบ้านได้

ส่วนใครที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ตลาดออนไลน์ การทำการตลาดออนไลน์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้คุณสามารถหาลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก เช่น การยิงโฆษณา ฝากร้าน หรือฝากให้คนมีชื่อเสียงช่วยโปรโมท

เปลี่ยนความรู้เป็นเงิน


คนที่เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ คุณสามารถเอาความรู้และทักษะนั้นมาเปลี่ยนเป็นเงินได้ ด้วยการมาเป็นติวเตอร์ออนไลน์ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งแบบวิดิโอสอนสด หรืออัดเป็นวิดิโอได้ โดยสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักสนใจเรียน เช่น

• การตลาดออนไลน์
• การทำเว็บไซต์
• การออกแบบ
• การเงิน
• ออกกำลังกาย, โยคะ, เต้น

ใช้เวลาว่างมารับงานฟรีแลนซ์

สำหรับคนที่พบว่าตัวคุณเองนั้นพอมีเวลาว่างอยู่พอสมควร การรับงานนอกหรืองานฟรีแลนซ์ก็ช่วยให้คุณมีรายได้ต่อเดือนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งงานฟรีแลนซ์มีอยู่หลายรูปแบบและมีเรทราคาที่ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณเอง โดยงานฟรีแลนซ์ยอดฮิตในตอนนี้ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางงานที่เป็นออนไลน์เป็นหลัก เช่น

• ทำกราฟฟิก
• เขียนบทความ
• ทำ Motion Graphic
• ทำการตลาดออนไลน์
• ดูแลเพจ Facebook

ในช่วงเศรษฐกิจที่กำลังปั่นป่วนไปตามการระบาดของโควิด-19 การบริหารการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นลำดับแรกๆ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้กระทบกับรายได้ของหลายคน แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่นะครับ ลองใช้ประโยชน์จากช่วงนี้หารายได้จากช่องทางอื่นและควบคุมการเงินของคุณไปพร้อมกัน รับรองว่าทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤตร่วมกันได้แน่นอน