NT

NT ผนึกความร่วมมือ GBDi เปิดตัวระบบ Health Link เชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ
NT เปิดตัวบริการ “Health Link” ระบบเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยสถานพยาบาลรัฐ-เอกชนกว่า 100 แห่ง

ดร. วงกต วิจักขณ์สังข์สิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจดิจิทัล  บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT    กล่าวว่า NT ได้ร่วมกับ GBDi  โดยการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศภายใต้ชื่อ “Health Link”  โดยรวบรวมข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ มาจัดเก็บด้วยมาตรฐานเดียวกันบนระบบคลาวด์ของ NT ทำให้โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการสามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอื่น ๆ ได้    ระบบ Health Link จะช่วยอำนวยความสะดวกผู้ป่วยในการย้ายโรงพยาบาลหรือกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วยให้แพทย์ในโรงพยาบาลใหม่สามารถเรียกดูประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเดิมที่อยู่ในโครงการได้ทันที เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ  โดยในเฟสแรก Health Link มีเป้าหมายเชื่อมโยงข้อมูลโรงพยาบาล 100 แห่ง

ดร.วงกต กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบ Health Link  ได้รับการพัฒนาอยู่บนคลาวด์ของ NT ซึ่งได้มาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย ISO 27001 และ CSA STAR  เนื่องจากข้อมูลสุขภาพและประวัติการรักษาเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องมีระบบการจัดเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล  ระบบ Health Link จึงใช้มาตรฐาน Fast Healthcare Interoperability Resources (FHIR) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพที่กำหนดโดยองค์กร Health Level Seven (HL7) International ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก การเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ระบบ Health Link จะเกิดก็ต่อเมื่อผู้สนใจสมัครใช้งานและยินยอมให้โรงพยาบาลส่งข้อมูลประวัติการรักษาของตนเองเข้าระบบเท่านั้น   โดยข้อมูลจะมีการเข้ารหัสในการจัดเก็บเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จะต้องเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภาและปฏิบัติงานในโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น  อีกทั้ง Health Link ยังรองรับการตรวจสอบย้อนหลังการใช้งานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนระบบ ประชาชนและโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการจึงสามารถเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของระบบได้

รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบัน GBDi  กล่าวว่า การพัฒนาระบบเชื่อมโยงสุขภาพในระดับประเทศที่ผ่านมาเกิดได้ยาก โดยโจทย์สำคัญคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโรงพยาบาล  ที่ผ่านมาโรงพยาบาลต่างมีระบบเก็บข้อมูลผู้ป่วยของตัวเองหลากหลายรูปแบบที่แตกต่าง  การแลกเปลี่ยนหรือส่งต่อข้อมูลมีขั้นตอนซับซ้อนและใช้เวลา เป็นอุปสรรคต่อการรักษาผู้ป่วยข้ามโรงพยาบาล เคสฉุกเฉินหรือการส่งผู้ป่วยข้ามจังหวัด ทำให้การรักษาล่าช้าและประชาชนไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร   ระบบ Health Link ที่ออกแบบรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ของโรงพยาบาลทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ  จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนามาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพของประเทศไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล  ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านข้อมูลสุขภาพของประเทศในภาพรวม      

ผู้สนใจใช้บริการ Health Link ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถสมัครใช้บริการ ผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เลือกเมนู “กระเป๋าสุขภาพ” กดเลือก “Health link”  ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.healthlink.go.th/patientinstruction 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เน็ตประชารัฐ

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชนตำบลมะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
อ่านต่อ
NT

รมว.ดีอีเอส นำ ผู้บริหาร และพนักงาน NT ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อ่านต่อ
ข่าวประขาสัมพันธ์

ธนาคารออมสิน จับมือ NT ร่วมพัฒนาสังคม ชุมชน ผ่านโครงการ CSR พร้อมนำชุมชน เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้กับชุมชน
อ่านต่อ
รางวัล

NT ได้รางวัลรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2564 ให้แก่หน่วยงานที่ผ่านการรับรอง
อ่านต่อ
ปตท

ปตท. ผนึก โทรคมนาคมแห่งชาติ สร้างความเชื่อมั่น พร้อมผลักดันการใช้เทคโนโลยีสื่อสารและดิจิทัล เสริมศักยภาพระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า
อ่านต่อ
NT

NT ผนึกความร่วมมือ GBDi เปิดตัวระบบ Health Link เชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ
NT เปิดตัวบริการ “Health Link” ระบบเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยสถานพยาบาลรัฐ-เอกชนกว่า 100 แห่ง

ดร. วงกต วิจักขณ์สังข์สิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจดิจิทัล  บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT    กล่าวว่า NT ได้ร่วมกับ GBDi  โดยการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศภายใต้ชื่อ “Health Link”  โดยรวบรวมข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ มาจัดเก็บด้วยมาตรฐานเดียวกันบนระบบคลาวด์ของ NT ทำให้โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการสามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอื่น ๆ ได้    ระบบ Health Link จะช่วยอำนวยความสะดวกผู้ป่วยในการย้ายโรงพยาบาลหรือกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วยให้แพทย์ในโรงพยาบาลใหม่สามารถเรียกดูประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเดิมที่อยู่ในโครงการได้ทันที เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ  โดยในเฟสแรก Health Link มีเป้าหมายเชื่อมโยงข้อมูลโรงพยาบาล 100 แห่ง

ดร.วงกต กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบ Health Link  ได้รับการพัฒนาอยู่บนคลาวด์ของ NT ซึ่งได้มาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย ISO 27001 และ CSA STAR  เนื่องจากข้อมูลสุขภาพและประวัติการรักษาเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องมีระบบการจัดเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล  ระบบ Health Link จึงใช้มาตรฐาน Fast Healthcare Interoperability Resources (FHIR) ซึ่งเป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพที่กำหนดโดยองค์กร Health Level Seven (HL7) International ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก การเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ระบบ Health Link จะเกิดก็ต่อเมื่อผู้สนใจสมัครใช้งานและยินยอมให้โรงพยาบาลส่งข้อมูลประวัติการรักษาของตนเองเข้าระบบเท่านั้น   โดยข้อมูลจะมีการเข้ารหัสในการจัดเก็บเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จะต้องเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภาและปฏิบัติงานในโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น  อีกทั้ง Health Link ยังรองรับการตรวจสอบย้อนหลังการใช้งานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนระบบ ประชาชนและโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการจึงสามารถเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของระบบได้

รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบัน GBDi  กล่าวว่า การพัฒนาระบบเชื่อมโยงสุขภาพในระดับประเทศที่ผ่านมาเกิดได้ยาก โดยโจทย์สำคัญคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโรงพยาบาล  ที่ผ่านมาโรงพยาบาลต่างมีระบบเก็บข้อมูลผู้ป่วยของตัวเองหลากหลายรูปแบบที่แตกต่าง  การแลกเปลี่ยนหรือส่งต่อข้อมูลมีขั้นตอนซับซ้อนและใช้เวลา เป็นอุปสรรคต่อการรักษาผู้ป่วยข้ามโรงพยาบาล เคสฉุกเฉินหรือการส่งผู้ป่วยข้ามจังหวัด ทำให้การรักษาล่าช้าและประชาชนไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร   ระบบ Health Link ที่ออกแบบรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ของโรงพยาบาลทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ  จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนามาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพของประเทศไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล  ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านข้อมูลสุขภาพของประเทศในภาพรวม      

ผู้สนใจใช้บริการ Health Link ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถสมัครใช้บริการ ผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เลือกเมนู “กระเป๋าสุขภาพ” กดเลือก “Health link”  ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.healthlink.go.th/patientinstruction 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เน็ตประชารัฐ

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชนตำบลมะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
อ่านต่อ
NT

รมว.ดีอีเอส นำ ผู้บริหาร และพนักงาน NT ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อ่านต่อ
ข่าวประขาสัมพันธ์

ธนาคารออมสิน จับมือ NT ร่วมพัฒนาสังคม ชุมชน ผ่านโครงการ CSR พร้อมนำชุมชน เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้กับชุมชน
อ่านต่อ
รางวัล

NT ได้รางวัลรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2564 ให้แก่หน่วยงานที่ผ่านการรับรอง
อ่านต่อ
ปตท

ปตท. ผนึก โทรคมนาคมแห่งชาติ สร้างความเชื่อมั่น พร้อมผลักดันการใช้เทคโนโลยีสื่อสารและดิจิทัล เสริมศักยภาพระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า
อ่านต่อ